ความรู้คู่ช่าง
TOTAL เป็นแบรนด์ที่จริงจังมากในเรื่องของการทำเครื่องมือที่ทรงคุณภาพ อีกทั้งยังไม่ชอบที่ทั้งโลก ต้องใช้เครื่องมือจากแบรนด์ดังๆอย่าง Bosch Makita และ Stanley เท่านั้น สินค้าจากบริษัทเหล่านี้คุณภาพสูงก็จริงแต่ราคาก็สูงเช่นกัน TOTAL ราคาไม่มาก แต่คุณภาพดีมาก แนวความคิดทั้งหมดนี้กล่าวถึงฟังก์ชัน การใช้งานและลักษณะแต่ยังรวมไปถึงประสิทธิภาพและการบำรุงรักษา TOTAL ไม่เคยทำโฆษณาบน TV แต่ทำให้ผู้คนจดจำด้วยการที่ TOTAL ขายประโยชน์ของเครื่องมือสำหรับลูกค้าและทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพสูงตัวสินค้าก็จะมีราคาขึ้นมาเอง ทีมงานของ TOTAL ทั้งหมดได้ตั้งใจและทุ่มเทเพื่อให้ TOTAL เติบโตในระดับ world-class ของบริษัทส่งออกเครื่องมือ ทีมงานของ TOTAL ตั้งอยู่ที่ประเทศจีน พวกเขาตั้งใจที่จะให้ TOTAL ขายความแตกต่างตั้งแต่การปรับปรุงทีมขาย พวกเขามีความมั่นใจว่าอนาคตจะทำเครื่องมือดีๆแบบนี้ให้ผู้คนได้ใช้และรู้จัก อย่างกว้างขวางต่อไป
หมายเหตุ การเลือกใช้น้ำมันเครื่องมาตรฐานต่างๆให้อ้างอิงตามคู่มือรถยนต์เป็นหลัก
โดยที่น้ำมันที่มีมาตรฐาน API สูงกว่าสามารถใช้แทนน้ำมันที่มีมาตรฐาน API ต่ำกว่าได้ทั้งหมด
2. เลือกใช้น้ำมันเครื่องตามเบอร์ความหนืด
ในการเลือกน้ำมันเครื่องตามเบอร์ความหนืด (SAE) ตามการใช้งานในประเทศไทยซึ่งเป็นเมืองร้อน
จึงแบ่งเบอร์ความหนืดตาม “ความหนืด เลขตัวหลัง” ของน้ำมันเครื่องเป็นหลัก เช่น
เบอร์ 20,
30, 40 และ 50 (ตัวเลขยิ่งมากยิ่งมีความหนืดมาก)
เราจึงแบ่งการใช้งานตามเบอร์ความหนืดได้ดังนี้
·
2.1 น้ำมันเครื่องเบอร์ 20 และ 30 เหมาะกับการใช้งานในรถขนาดเล็ก รถใหม่
หรือรถที่เน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก ช่วยในเรื่องการประหยัดเชื้อเพลิง เช่น SAE 0W-20,
0W-30 และ 5W-30
·
2.2 น้ำมันเครื่องเบอร์ 40 มักเหมาะกับการใช้งานกับรถที่ผ่านการใช้งานมามากกว่า
100,000
กิโลเมตร
เป็นเบอร์น้ำมันเครื่องที่สามารถใช้งานได้กับรถทั่วไป
มีคุณสมบัติการปกป้องเครื่องที่ดีในสภาวะการขับขี้ที่หนักหน่วง หรือใช้ความเร็ว
เช่น SAE
0W-40, 5W-40 และ 10W-40
·
2.3 น้ำมันเครื่องเบอร์ 50 เหมาะกับการใช้งานรถเก่าที่มีอาการกินน้ำมันเครื่อง
รถแข่งที่มีรอบจัดซึ่งต้องการฟิล์มน้ำมันที่มีขนาดหนาในการปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์
เช่น SAE
20W-50
หมายเหตุ ในการใช้งานถ้าพบปัญหาน้ำมันเครื่องหาย
ควรความปรับเบอร์ความหนืดขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปกป้องเครื่องยนต์และลดการกินน้ำมันเครื่อง
หรือใช้น้ำมันเครื่องที่มีสารปรับสภาพซีลยาง (Seal Conditioner) อย่างตัว MAXLIFE DIESEL น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล หรือ MAXLIFE น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน
3. เลือกใช้น้ำมันเครื่องตามชนิดของน้ำมันเครื่อง
·
3.1 น้ำมันเครื่องเกรดสังเคราะห์แท้ มีอายุการใช้งาน 10,000 –
20,000 กิโลเมตร
หรือไม่เกิน 6
เดือน
·
3.2 น้ำมันเครื่องเกรดกึ่งสังเคราะห์ มีอายุการใช้งาน 8,000 –
10,000 กิโลเมตร
หรือไม่เกิน 6
เดือน
·
3.3 น้ำมันเครื่องเกรดทั่วไป มีอายุการใช้งาน 5,000 – 8,000
กิโลเมตร
หรือไม่เกิน 6
เดือน
หมายเหตุ: ผู้ที่ต้องการดูแลเครื่องยนต์อย่างดีและไม่ต้องการเปลี่ยนถ่ายบ่อย
มักเลือกน้ำมันเครื่องเกรดสังเคราะห์แท้
ในขณะที่หลายคนอาจเลือกใช้น้ำมันเครื่องเกรดกึ่งสังเคราะห์สำหรับรถใช้งานหนัก
มีระยะวิ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายบ่อย ๆ
อยู่แล้ว เป็นต้น
4. เลือกใช้น้ำมันเครื่องตามชนิดของน้ำมันเชื้อเพลิงทางเลือก
·
4.1 น้ำมันเบนซินที่มีส่วนผสมของเอทานอล เช่น E20 และ E85 ควรใช้น้ำมันที่มีมาตรฐานสูง เช่น API SN ขึ้นไป
เนื่องจากเอทานอลจะรวมตัวกับน้ำได้ดี ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็วยิ่งขึ้น
จึงต้องใช้ที่ป้องกันการเสื่อมสภาพได้ดี
·
4.2 น้ำมันดีเซลที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล เช่น B10 และ B20 ควรใช้น้ำมันที่มีมาตรฐานสูง เช่น API CI-4 ขึ้นไป เนื่องจากไขมันจากน้ำมันไบโอดีเซล
จะเข้าไปอุดตันไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงและยังทำให้เกิดคราบยางเหนียวภายในเครื่องยนต์
ควรใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณสมบัติในการชะล้างสิ่งสกปรกที่เกิดขึ้นภายในเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูง
รู้อย่างนี้แล้ว
ควรเลือกใช้น้ำมันเครื่องให้ถูกประเภทและเหมาะสมกับการใช้งานรถยนต์ของคุณ
และควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องรถยนต์ตามระยะการเปลี่ยนถ่าย
ตรวจเช็กน้ำมันเครื่องอย่างสม่ำเสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์
และป้องกันความเสียหาย ที่มีสาเหตุมาจากการใช้งานน้ำมันเครื่องเกินระยะที่กำหนด
ซึ่งจะส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์โดยตรง ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยนะครับ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกหาน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมในการเปลี่ยนถ่ายครั้งต่อไปครับ