ความรู้คู่ช่าง

 TOTAL เป็นแบรนด์ที่จริงจังมากในเรื่องของการทำเครื่องมือที่ทรงคุณภาพ อีกทั้งยังไม่ชอบที่ทั้งโลก ต้องใช้เครื่องมือจากแบรนด์ดังๆอย่าง Bosch  Makita และ Stanley เท่านั้น สินค้าจากบริษัทเหล่านี้คุณภาพสูงก็จริงแต่ราคาก็สูงเช่นกัน TOTAL ราคาไม่มาก แต่คุณภาพดีมาก แนวความคิดทั้งหมดนี้กล่าวถึงฟังก์ชัน การใช้งานและลักษณะแต่ยังรวมไปถึงประสิทธิภาพและการบำรุงรักษา TOTAL  ไม่เคยทำโฆษณาบน TV แต่ทำให้ผู้คนจดจำด้วยการที่ TOTAL ขายประโยชน์ของเครื่องมือสำหรับลูกค้าและทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพสูงตัวสินค้าก็จะมีราคาขึ้นมาเอง ทีมงานของ TOTAL ทั้งหมดได้ตั้งใจและทุ่มเทเพื่อให้ TOTAL เติบโตในระดับ world-class ของบริษัทส่งออกเครื่องมือ ทีมงานของ TOTAL ตั้งอยู่ที่ประเทศจีน พวกเขาตั้งใจที่จะให้ TOTAL ขายความแตกต่างตั้งแต่การปรับปรุงทีมขาย พวกเขามีความมั่นใจว่าอนาคตจะทำเครื่องมือดีๆแบบนี้ให้ผู้คนได้ใช้และรู้จัก อย่างกว้างขวางต่อไป

     1. เครื่องยนต์เบนซินและแก๊ส: เลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีมาตรฐาน API ที่ขึ้นต้นด้วยตัว “S” โดยมีมาตรฐานต่างๆ เช่น API SP, API SN-Plus, API SN, API SM และ API SL (มาตรฐานจะเรียงตามตัวอักษรภาษาอังกฤษจาก SA เป็นจนถึง SP ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงที่สุดในปัจจุบันที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์เบนซินฉีดตรง (Gasoline Direct Injection) ทั้งที่ติดและไม่ติดตั  1.2 เครื่องยนต์ดีเซล: เลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีมาตรฐาน API ที่ขึ้นต้นด้วยตัว “C” โดยมีมาตรฐานต่างๆ เช่น API CK-4, API CJ-4, API CI-4, API CH-4 และ API CF-4 (มาตรฐานจะเรียงจาก CA เป็นจนถึง CK-4 ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงที่สุดในปัจจุบัน)

หมายเหตุ การเลือกใช้น้ำมันเครื่องมาตรฐานต่างๆให้อ้างอิงตามคู่มือรถยนต์เป็นหลัก โดยที่น้ำมันที่มีมาตรฐาน API สูงกว่าสามารถใช้แทนน้ำมันที่มีมาตรฐาน API ต่ำกว่าได้ทั้งหมด

 

 2. เลือกใช้น้ำมันเครื่องตามเบอร์ความหนืด

          ในการเลือกน้ำมันเครื่องตามเบอร์ความหนืด (SAE) ตามการใช้งานในประเทศไทยซึ่งเป็นเมืองร้อน จึงแบ่งเบอร์ความหนืดตาม “ความหนืด เลขตัวหลัง” ของน้ำมันเครื่องเป็นหลัก เช่น เบอร์ 20, 30, 40 และ 50 (ตัวเลขยิ่งมากยิ่งมีความหนืดมาก) เราจึงแบ่งการใช้งานตามเบอร์ความหนืดได้ดังนี้

·         2.1 น้ำมันเครื่องเบอร์ 20 และ 30 เหมาะกับการใช้งานในรถขนาดเล็ก รถใหม่ หรือรถที่เน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก ช่วยในเรื่องการประหยัดเชื้อเพลิง เช่น SAE 0W-20, 0W-30 และ 5W-30

·         2.2 น้ำมันเครื่องเบอร์ 40 มักเหมาะกับการใช้งานกับรถที่ผ่านการใช้งานมามากกว่า 100,000 กิโลเมตร เป็นเบอร์น้ำมันเครื่องที่สามารถใช้งานได้กับรถทั่วไป มีคุณสมบัติการปกป้องเครื่องที่ดีในสภาวะการขับขี้ที่หนักหน่วง หรือใช้ความเร็ว เช่น SAE 0W-40, 5W-40 และ 10W-40

·         2.3 น้ำมันเครื่องเบอร์ 50 เหมาะกับการใช้งานรถเก่าที่มีอาการกินน้ำมันเครื่อง รถแข่งที่มีรอบจัดซึ่งต้องการฟิล์มน้ำมันที่มีขนาดหนาในการปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์ เช่น SAE 20W-50

หมายเหตุ ในการใช้งานถ้าพบปัญหาน้ำมันเครื่องหาย ควรความปรับเบอร์ความหนืดขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปกป้องเครื่องยนต์และลดการกินน้ำมันเครื่อง หรือใช้น้ำมันเครื่องที่มีสารปรับสภาพซีลยาง (Seal Conditioner) อย่างตัว MAXLIFE DIESEL น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล หรือ MAXLIFE น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน

 

3. เลือกใช้น้ำมันเครื่องตามชนิดของน้ำมันเครื่อง

·         3.1 น้ำมันเครื่องเกรดสังเคราะห์แท้ มีอายุการใช้งาน 10,000 – 20,000 กิโลเมตร หรือไม่เกิน 6 เดือน

·         3.2 น้ำมันเครื่องเกรดกึ่งสังเคราะห์ มีอายุการใช้งาน 8,000 – 10,000 กิโลเมตร หรือไม่เกิน 6 เดือน

·         3.3 น้ำมันเครื่องเกรดทั่วไป มีอายุการใช้งาน 5,000 – 8,000 กิโลเมตร หรือไม่เกิน 6 เดือน

หมายเหตุ: ผู้ที่ต้องการดูแลเครื่องยนต์อย่างดีและไม่ต้องการเปลี่ยนถ่ายบ่อย มักเลือกน้ำมันเครื่องเกรดสังเคราะห์แท้ ในขณะที่หลายคนอาจเลือกใช้น้ำมันเครื่องเกรดกึ่งสังเคราะห์สำหรับรถใช้งานหนัก มีระยะวิ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายบ่อย ๆ อยู่แล้ว เป็นต้น

 

4. เลือกใช้น้ำมันเครื่องตามชนิดของน้ำมันเชื้อเพลิงทางเลือก

·         4.1 น้ำมันเบนซินที่มีส่วนผสมของเอทานอล เช่น E20 และ E85 ควรใช้น้ำมันที่มีมาตรฐานสูง เช่น API SN ขึ้นไป เนื่องจากเอทานอลจะรวมตัวกับน้ำได้ดี ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็วยิ่งขึ้น จึงต้องใช้ที่ป้องกันการเสื่อมสภาพได้ดี

·         4.2 น้ำมันดีเซลที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล เช่น B10 และ B20 ควรใช้น้ำมันที่มีมาตรฐานสูง เช่น API CI-4 ขึ้นไป เนื่องจากไขมันจากน้ำมันไบโอดีเซล จะเข้าไปอุดตันไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงและยังทำให้เกิดคราบยางเหนียวภายในเครื่องยนต์ ควรใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณสมบัติในการชะล้างสิ่งสกปรกที่เกิดขึ้นภายในเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูง

           

รู้อย่างนี้แล้ว ควรเลือกใช้น้ำมันเครื่องให้ถูกประเภทและเหมาะสมกับการใช้งานรถยนต์ของคุณ และควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องรถยนต์ตามระยะการเปลี่ยนถ่าย ตรวจเช็กน้ำมันเครื่องอย่างสม่ำเสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ และป้องกันความเสียหาย ที่มีสาเหตุมาจากการใช้งานน้ำมันเครื่องเกินระยะที่กำหนด ซึ่งจะส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์โดยตรง ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยนะครับ

 

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกหาน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมในการเปลี่ยนถ่ายครั้งต่อไปครับ